วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

การแปรของวรรณยุกต์โทในภาษาไทยกรุงเทพฯ ตามกลุ่มอายุ

การแปรของวรรณยุกต์โทในภาษาไทยกรุงเทพฯ ตามกลุ่มอายุ
Variation Of The Falling Tone In Bangkok Thai By Age Groups


เสียงวรรณยุกต์เพี้ยนคืออะไรทำไมนักวิชาการจึงรณรงค์เรื่องนี้เยอะจัง ?



              ในปัจจุบันมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า มีการเปลี่ยนแปลงของวรรณยุกต์ โดยเฉพาะในเด็กรุ่นใหม่ (พล.. เปรม ติณสูลานนท์ 2550) กล่าวว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยมีพระราชกระแสรับสั่งถึงการเปลี่ยน-แปลงของวรรณยุกต์ว่าเสียงจะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เสียงโทกลายเป็นเสียงตรี เสียงตรีกลายเป็นเสียงจัตวา เลยทำให้ฟังดูแปลก  ทั้งนี้ได้มีผู้รู้อาทิ  สุนีย์ สินธุเดชะ (
2552) ตั้งข้อสังเกตว่าปัญหาการใช้ภาษาไทยของเด็กที่พบมากในปัจจุบันคือ การพูดเสียงเพี้ยน และนิพิฏฐ์ อิทรสมบัติ (2553) ได้ให้ข้อสังเกตว่า กระทรวงวัฒนธรรมเผยผลสำรวจร้อยละ 60.3 พบว่าวัยรุ่นเป็นผู้ใช้ภาษาไทยที่แย่ที่สุด ซึ่งทั้งหมดเป็นการสังเกตโดยอาศัยการฟัง


          ลองสังเกตการออกเสียงคำที่มีเสียงวรรณยุกต์โทของเด็กรุ่นใหม่คนนี้ดูนะคะ เช่น คำว่า ว่า”,“ก็”,"ชอบ" 

                       http://www.youtube.com/watch?v=ccZask45DTY

                       http://www.youtube.com/watch?v=t_dZUFqARKQ

 
             หลังจากได้ลองฟังเสียงแล้ว รู้สึกแปลกหูกันบ้างไหมคะ เพราะมีผู้สังเกตเห็นว่า เด็กรุ่นใหม่ในปัจจุบันออกเสียงวรรณยุกต์โท เป็นเสียงลอยคล้ายเสียงวรรณยุกต์ตรี ต่างไปจากเสียงวรรณยุกต์โทแบบเดิมของผู้ใหญ่ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องต่อไปนี้มีจุดประสงค์เพื่อตอบคำถามว่าวรรณยุกต์โทของผู้พูดภาษาไทยกรุงเทพฯ มีการแปรตามอายุของผู้พูดหรือไม่ และถ้ามีลักษณะของการแปรจะเป็นอย่างไร

             งานวิจัยช่วงต้นถึงกลางศตวรรษที่ 20
             ต้นศตวรรษ
·       Bradley 1911         (กลสัทศาสตร์)
·       Daniel Jones 1928  (โสตสัทศาสตร์)
     ผลการศึกษาของงานทั้งสองชิ้นนี้คล้ายคลึงกัน คือ วรรณยุกต์ในภาษาไทยพบว่ามี 5 วรรณยุกต์ และจัดให้วรรณยุกต์โทเป็นวรรณยุกต์เปลี่ยนระดับ (gliding tone) และมีลักษณะทางสัทศาสตร์ของวรรณยุกต์โท กลาง-ตก [31]


                 กลางศตวรรษ
·       Henderson 1949  (โสตสัทศาสตร์)
     ลักษณะทางสัทศาสตร์ของวรรณยุกต์โทมีลักษณะเป็น สูง-ตก [51]
·       Abramson 1962    (กลสัทศาสตร์)
     ลักษณะทางสัทศาสตร์ของวรรณยุกต์โทมีลักษณะเป็น สูง-ตก [451]
จะเห็นว่า ลักษณะทางสัทศาสตร์ของวรรณยุกต์โททั้งสองงานนี้คล้ายคลึงกัน จึงจัดให้ลักษณะทางสัทศาสตร์ของวรรณยุกต์โทเป็น สูง-ตก [451] 
 DOWNLOAD

                      งานวิจัยช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ถึงปัจจุบัน
·       Henderson 1982    (โสตสัทศาสตร์)
      เป็นการศึกษาครั้งที่สองของ Henderson เพื่อเปรียบเทียบลักษณะทางสัทศาสตร์ของวรรณยุกต์ในภาษาไทยมาตรฐานระหว่างครึ่งศตวรรษแรกกับหลัง พบว่า ในเด็กรุ่นใหม่วรรณยุกต์โทมีเสียงตกน้อยลงกว่าเดิม กลายเป็น สูง-ตก [52]

·       อรุณี 1986/ 2529     (โสตสัทศาสตร์ *คำพูดต่อเนื่อง)
       ผู้วิจัยพบว่า วรรณยุกต์โทมีลักษณะเสียง กลาง-ขึ้น-กลาง [343] หรือ เป็นเสียงลอย (เสียงลอย คือ เสียงวรรณยุกต์หลายเสียงที่มีลักษณะไม่ขึ้นหรือตกอย่างชัดเจนแบบเดียวกันทั้งหมด)  
     จะเห็นได้ว่า งานวิจัยสองชิ้นข้างต้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 นี้  วรรณยุกต์โทท้ายเสียงจะเป็นเสียงลอยเช่นเดียวกัน

·       ปิยฉัตร  1991          (กลสัทศาสตร์)
    Potisuk et al  1994
       ผณินทรา  2000  
     อ้างถึงใน DOWNLOAD
       วิไลลักษณ์  2000
     Moren B. Zsiga  2006
        DOWNLOAD
       งานวิจัยช่วงหลังมีลักษณะทางสัทศาสตร์ของเสียงวรรณยุกต์โทเป็น สูง-ตก แต่สังเกตได้ว่า ลักษณะของเสียงจะตกน้อยลงกว่าเดิม  

·    Pittayawat (2007)
        อธิบายกลไกที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทิศทางของวรรณยุกต์โท ในงาน “Directionality Of Tone Change” ได้ข้อสรุปว่า
         1. จุดเริ่มต้นเสียง (0nset) มีทิศทางเลื่อนขึ้นจากระดับกลางไประดับสูง (mid   to high) ในช่วง 1908 (Bradley) กับช่วง 1962 (Abramson) ตรงกับกลไกในภาพ (d)
          2. ระหว่าง 1979 (Abramson) และ 2004 (Moren B. Zsiga) จุด peak ได้เปลี่ยนจากตำแหน่งต้นไปยังตำแหน่งกลางของ rime (beginning to middle of the rime)อธิบายได้ว่าเกิด mechanism of peak sliding ภาพ(c)
       DOWNLOAD

  
เราเห็นได้ว่า งานวิจัยต่างๆเหล่านี้ช่วยตอบคำถามว่ามีการแปรของเสียงวรรณยุกต์โทในภาษาไทยกรุงเทพฯ ที่พูดโดยกลุ่มวัยรุ่นขึ้นจริง  ดังนั้น จึงน่า
มี
การศึกษาเช่นเดียวกันนี้อีกอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะตอบคำถามและข้อสังเกตของ
นักวิชาการหลายท่านที่ว่า "เสียงวรรรยุกต์โทยังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ในปัจจุบัน"











วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

คนเราได้ยินเสียงอย่างไรนะ ๑_๑




รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม


สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน ในบทนี้ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการการได้ยินนะคะ โดยทั่วไปแล้วคนเราจะรู้แค่ว่าหูมีหน้าที่รับฟังเสียง แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าเสียงผ่านหูคนเราไดอย่างไร อวัยวะส่วนไหนในหูทำหน้าที่อะไรบ้าง และเสียงมันเดินทางจากนอกเข้าไปในหูเราอย่างไร
ก่อนที่จะรู้เกี่ยวกับกระบวนการการได้ยินนั้นเราต้องรู้ก่อนว่าอวัยวะใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับการได้ยิน
กระบวนการการได้ยินหูเป็นอวัยวะสำคัญที่สุดในการรับฟังเสียง หูมีหน้าที่รวบรวมสิ่งเร้า (คลื่นเสียง) และส่งผ่านสิ่งเร้าไปสู่ประสาทที่เกี่ยวข้องกับการรับฟังเสียงโดยแปลงรูปจากพลังงานเสียงเป็นพลังงานกล
                เราสามารถแบ่งหูออกเป็น 3ส่วน
1.หูชั้นนอก ได้แก่  ใบหู ช่องหู รูหู
2.หูชั้นกลาง ได้แก่ แก้วหู กระดูก3ชิ้น ประสาทchorda tympani และ the Eustachian tube
3.หูชั้นใน ได้แก่ cochlea และ the Vestibule

ที่มารูปภาพ http://www.silent.se/ergonomics.php        
  กระบวนการการได้ยิน
                เวลาที่คนเราพูดนั้นคลื่นเสียงที่ออกไปจะไปจับกับโมเลกุลในอากาศ หูทำหน้าที่รวบรวมสิ่งเร้าเหล่านั้น (คลื่นเสียง) เสียงที่ชัดเจนที่สุดที่คนเราสามารถได้ยินอยู่ที่ความดัง 27 เดซิเบล และหูจะสามารถทนเสียงดังที่สุดได้แก่ 140 เดซิเบล เมื่อเสียงผ่านรูหูไปก็กระทบกับแก้วหู แก้วหูเป็นเนื้อเยื้อแผ่นบางแต่มันจะทำหน้าที่คล้ายกลองคือเมื่อเสียงมากระทบทำให้ความดังของเสียงมีความดังมากกว่าเสียงภายนอกสองถึงสี่เท่าทำให้กระดูกสามชิ้นที่ยึดติดกับแก้วหูนั้นสั่นตามไปด้วย เมื่อกระดูกหูสั่นมันก็จะส่งสัญญาณไปยังหน้าต่างของหูชั้นในหรือที่เรียกว่า oval window หูชั้นในหรือที่เรียกว่า cochlea ในนี้จะมีของเหลวที่เรียกว่า perilymph  เมื่อสัญญาณเสียงส่งมาถึงมันก็จะกระเพื่อมส่งสัญญาณไปยัง ประสาท หลังจากนั้นก็จะส่งไปยังประสาทสมอง หลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของสมองแล้วที่จะตีความเสียงนั้น
ที่มาของคลิปวีดีโอ http://www.youtube.com/watch?v=_ovMh2A3P5k

ที่มาของข้อมูล    หนังสือสัทศาสตร์  รองศาสตราจารย์ ดร. อมร แสงมณี

ผู้เขียนขอตบท้ายด้วย MV เพลงโปรดของผู้เขียน
Secrets by Onerepublic









by
เจ้าหญิงตุ๊กกี้

สำเนียงในภาษาอังกฤษ (ต่อ)


o   English Accents (Cockney)


สำหรับผู้อ่านคนไหนสนใจศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสำเนียงCockney ก็เข้าไปศึกษาได้ที่
ซึ่งเป็นเวบไซด์ของบีบีซีที่พูดถึงเรื่องของสำเนียงCockney
o   English Accents (Australian)

ณ ตอนนี้ผู้เขียนขอนำคลิปวีดีโอการพูดสำเนียงต่างๆมาให้ท่านผู้อ่านดูกัน แต่ถ้าผู้เขียนไปเจอสำเนียงที่น่าสนใจผู้เขียนก็จะนำมาลงให้ท่านดูนะคะ

ท้ายนี้ผู้ที่สนใจเรียนรู้ภาษาอังกฤษไม่ว่าจะเป็นพูด เขียน อ่าน ฟัง ผู้เขียนขอแนะนำเวบไซด์ http://www.bbc.co.uk/ ซึ่งเป็นแหล่งความรู้ที่เชื่อถือได้ และถ้าจะเปรียบมันก็เหมือนเป็นมหาสมุทรในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของผู้ที่สนใจ สำหรับท่านที่ไม่เก่งเรื่องการฟังผู้เขียนขอแนะนำให้หัดฟังภาษาอังกฤษจากเวบไซด์นี้ทุกวัน รับรองเลยว่าทักษะการฟังของท่านจะดีขึ้นแน่นอนเจ้าค่ะ

ผู้เขียนขอปิดท้ายด้วยเพลงเพราะๆให้ฟังก่อนนอนนะคะ
stay the night (Jame Blunt)
by
เจ้าหญิงตุ๊กกี้

สำเนียงในภาษาอังกฤษ

        

สำเนียงส่อภาษา กริยาส่อสกุล


         สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน อย่าเพิ่งตกใจกับรูปภาพและสำนวนที่เอามาโพสไว้นะคะ ผู้เขียนไม่ได้โมโหใครมาแต่เห็นว่าสำนวนนี้เข้ากับเรื่องที่ผู้เขียนจะพูดนั้นเอง นั่นก็คือ สำเนียงในภาษาอังกฤษนั่นเอง ไหนๆเราก็รู้เรื่องเสียงพยัญชนะเสียงสระกันมาแล้ว จะเป็นไรไปคะถ้าเราจะรู้เรื่องสำเนียงในภาษาอังกฤษบ้าง
         เนื่องด้วยปัจจุบันนี้ภาษาอังกฤษถูกจัดให้เป็น International language กล่าวคือภาษาอังกฤษถูกใช้เป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับคนทั่วโลก  การที่โลกเข้าสู่ยุคโลกาวิวัตน์ทำให้ภาษาอังกฤษมีบทบาทสำคัญเชิง การติดต่อทางธุรกิจ การสื่อสาร การบันเทิง หรือแม้กระทั่งการเรียนการสอน นอกจากประเทศทางฝั่งยุโรปและอเมริกาแล้ว ยังมีหลายประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการเช่น อินเดีย สิงคโปร์

          จริงแล้วๆหลายๆคนอาจจะคิดว่า รู้ไปทำไมเรื่องสำเนียง พูดอะไรก็สื่อสารได้เหมือนกันแหละ แต่มันจะดีกว่าไหมคะถ้าเรารู้ว่าสำเนียงไหนเป็นอย่างไร และจะดีกว่าไหมค่ะถ้าเราฟังสำเนียงเขาออก งั้นเรามาเริ่มดูคลิปวีดีโอสำเนียงในภาษาอังกฤษแบบต่างๆกันเลยนะคะ
เริ่มด้วยสำเนียงไฮโซก่อนเลยนะคะ

                        สำเนียง RP หรือที่เรียกว่า Queen's (or King's) English, Oxford English, or BBC English เป็นสำเนียงมาตรฐานของภาษาอังกฤษที่พูดในประเทศอังกฤษ  สมัยผู้เขียนเรียนอยู่ ป ตรี อาจารย์ได้นำคลิปวิดีโอของหนุ่มหน้ามนคนนี้มาให้ฟังภาษาอังกฤษแบบสำเนียงต่างๆ นับว่าเขาช่างเก่งจริงๆสามารถพูดได้หลายสำเนียงถ้าใครที่สนใจว่างๆก็ลองหัดอย่างเขาคนนี้บ้างนะคะ

ผู้ที่สนใจสามารถจะศึกษาเพิ่มเติ่มได้ในคลิปวีดีโอด้านล่างนี้ซึ่งผู้เขียนนำมาจาก http://www.youtube.com/ เขาจะอธิบายเกี่ยวกับลักษณะของสำเนียง RPค่ะ







สำเนียง GA หรือ General American คือสำเนียงมาตรฐานภาษาอังกฤษที่พูดกันในประเทศอเมริกา

นอกจากนี้ยังมีสำเนียงอื่นๆอีก

o   English Accents (Indian)

o   English Accents (Redneck American)




เนื่องจากโหลดข้อมูลได้ไม่เยอะ ดิฉันจะขอโพสอีกสองสำเนียงในบทความหน้า




by
เจ้าหญิงต๊กกี้

เสียงพยัญชนะและสระในภาษาอังกฤษ

มาฝึกออกเสียงพยัญชนะและเสียงสระในภาษาอังกฤษกันเถอะ

                หลายๆคนคงคิดว่าการออกเสียงภาษาอังกฤษนี่มันยากจริงๆหนอ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกค่ะเพราะผู้เขียนเองก็เคยเป็นมาก่อน เห็นฝรั่งทีไรเป็นต้องหลบทุกที ยังจำได้เลยตอนอยู่มัธยมปลายขณะที่กำลังเดินเที่ยวเล่นกับเพื่อนก็มีฝรั่งคนนึงถามว่า  “Excuse me, where’s railway station?”  ไอ่เราก็ฟังเป็น Radio station ก็เลยทำหน้า งงๆชี้ถูกชี้ผิดฝรั่งก็เหมือนรู้ว่าเราฟังเขาไม่ออก เขาเลยบอกซ้ำใหม่อีกครั้งเราถึงจะเข้าใจ วันนั้นก็แอบเจ็บใจตัวเองนิดๆว่าทำไมเราถึงฟังเขาไม่ออก ก็อุตส่าห์เรียนตั้งแต่อนุบาลยัน ม.ปลายแต่ภาษาอังกฤษไม่กระเตื้องเลย พอเข้ามหาลัยเราก็เลือกเรียนเอกวิชาภาษาอังกฤษซึ่งเป็นวิชาที่เราถนัดมาก (ประชด)  ^_-      ผู้เขียนเองได้มีโอกาสเรียนวิชา English phonetics ตอนปีสอง ซึ่งวิชานี้เป็นที่กล่าวขานมาจากรุ่นพี่ว่าโหดและยากมาก เนี่ย! มีคนติดFด้วยนะ”   T_T  คำกล่าวขานของรุ่นพี่ทำให้ผู้เขียนกลัววิชานี้ไปเลย พอได้มาเรียนผู้เขียนรู้สึกชอบวิชานี้มากอาจารย์สอนการออกเสียงในภาษาอังกฤษได้สนุกมากจากที่เมื่อก่อนผู้เขียนออกเสียงภาษาอังกฤษไม่ถูกต้องแต่พอมาเรียนวิชานี้ทำให้เรามั่นใจในการออกเสียงมากขึ้น

                ซึ่งผู้เขียนก็เห็นว่าการที่เราจะฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษให้ได้นั้นเราต้องเราจากการเรียนรู้การออกเสียงพยัญชนะและสระก่อนใช่ไหมคะ เพราะเสียงพยัญชนะถือว่าสำคัญที่สุดในการออกเสียง อย่างคำว่า ‘genre’ ที่จริงๆแล้วฝรั่งเขาออกเสียงกันว่า [ʒɒn.ɻə]  แต่คนไทยบางคนก็ออกเสียงว่า [tʃɒn.rɐ] เนื่องด้วยอิทธิพลของภาษาไทยนี้ละค่ะ แต่ถ้าเรารู้ว่าจริงๆแล้วพยัญชนะในภาษาอังกฤษเขาออกเสียงกันอย่างไร อย่างนี้เราก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วใช่ไหมล่ะคะ
ใครใคร่ฝึก ฝึกค่ะ
Link ฝึกฝนการออกเสียงสระและพยัญชนะ

สำหรับเสียงสระ คลิปวีดีโอนี้จะสอนการออกเสียงเกี่ยวกับ สระเดี่ยว

และสระประสม

                http://www.uiowa.edu/~acadtech/phonetics/ เป็บเวบไซด์ของ University of Lowa เป็น Flash Animation เกี่ยวกับเสียงพยัญชนะและเสียงสระโดยมีคำอธิบายอย่างละเอียดสำหรับวิธีการออกเสียง รวมทั้งมีสื่อมัลติมีเดียที่น่าสนใจมาก เขาจะมีAnimation อวัยวะภายในปากเมื่อเราคลิกที่เสียงใดๆ รูปลิ้นก็จะเคลื่อนไหวให้เห็นว่าเสียงนั้นๆออกเสียงอย่างไรและเอาลิ้นไปเตะส่วนไหนบ้าง อีกทั้งยังมีวีดีโอที่ให้เห็นรูปปากและวิธีการออกเสียงอีกด้วย น่าสนใจใช่ไหมล่ะคะ เวบไซด์นี้ไม่ใช่แค่เป้นประโยชน์สำหรับผู้ศึกษาภาษาอังกฤษอย่างเดียวนะคะ เขายังมีวีธีการออกเสียงของภาษาเยอรมัน และภาษาสเปนอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีเว็บไซด์ดีดีเว็บหนึ่งคือ http://www.antimoon.com/how/pronunc-soundsipa.htm ส่วนมากแล้วจะเกี่ยวกับการออกเสียงภาษาอังกฤษและจะมีเนื้อหาให้เรียนรู้เกี่ยวกับ IPA อีกด้วย แต่เสียงพยัญชนะหรือสระที่เขานำเสนอจะไม่มีการเบี่ยงไปทาง สำเนียงอเมริกันหรือ อังกฤษ เขาได้ระบุไว้ว่าสิ่งที่เขานำเสนอนั้นเป็นModern English
อีกเว็บที่อยากนำเสนอมากๆอย่างหนึ่งคือhttp://www.agendaweb.org/phonetic.html ในเว็บมีให้เรียนรู้ทั้งเสียงพยัญชนะและเสียงสระ มีแบบฝึกหัดให้ทำเยอะและสนุกด้วยนะคะ อีกอย่างหนึ่งผู้เขียนคิดว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกทักษะการฟังเสียงต่างๆค่ะ เขาจะมีให้เราพิมtextที่เราได้ยินด้วยนะคะนับว่าใครใคร่ฝึกก็ฝึกกันให้มันเลยค่ะ
        สำหรับผู้ที่ต้องการเน้นเนื้อหา ไม่ชอบการฝึกออกเสียง ก็ลองเข้าไปที่นี่ดูนะคะhttp://www.studyenglishtoday.net/english-phonetics.html เขาจะมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะหน่อย
แต่ถ้าใครเรียนรู้แล้วร้อนวิชาอยากทดสอบตัวเองผู้เขียนก็มีเว็บไซด์สำหรับทำแบบทดสอบเกี่ยวกับPronunciation เขาจะออกเสียงให้เราฟังแล้วให้ตัวเลือกเรามาว่าเสียงนี้เป็นเสียงอะไร http://www.esltower.com/pronunciation.html
                        ท้ายสุด สุดท้าย สำหรับคนที่ไม่ชอบทฤษฏีเอาเสียเลยแต่ชอบดูการปฏิบัติมากกว่า ผู้เขียนขอแนะนำ http://www.englishmedialab.com/pronunciation.html จะมีคลิปวีดีโอ ขอบอกว่าเยอะจริงๆคะเค้าจะอธิบายอย่างะเอียดเลยว่าเอาลิ้นไปเตะตรงไหนอย่างไร พร้อมออกเสียงให้ดูด้วยนะคะ ส่วนมากคลิปที่เขาเสนอก็จะมาจากเว็บ BBCคะ  ผู้เขียนขออนุญาตเอาคลิปมาให้ดูเป็นตัวอย่างเผื่อใครสนใจหรือดูแล้วเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับการออกเสียง ก็สามารถไปฟังไปศึกษาได้ค่ะ


                        เหนื่อยแล้วหรือยังคะ อย่าเพิ่งเหนื่อยนะถ้าเราอยากเก่งเราต้องฝึกค่ะ รับรองว่าถ้าผู้สนใจศึกษาและขยันฝึกรับรองว่าท่านจะพูดภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นแน่นอนค่ะ เห็นไหมละคะว่า สัทศาสตร์มีประโยชน์สำหรับคุณมากแค่ไหน

                        ท้ายนี้ผู้เขียนก็ฝากเพลงเพราะๆให้ฟังกันนะคะ เป็นเพลงของ Jack Johnson นักร้องโปรดคนหนึ่งของผู้เขียนค่ะฟังแล้วรูปสึกกำลังเดินอยู่ที่ชายทะเลเลย
        You and your heart





by
เจ้าหญิงตุ๊กกี้